MTL Fit คืออะไร
แอปพลิเคชันด้านสุขภาพที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสุขภาพตัวเองได้ดียิ่งขึ้นและสนุกกับการออกกำลังกายเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างง่ายดาย
MTL Fit is a health application which helps you understand more about your health and enjoy working out to easily reach the goals.
หากไม่ใช่ลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิต จะสามารถใช้แอปพลิเคชันนี้ได้ไหม
ทุกคนสามารถใช้แอปพลิเคชัน MTL Fit ได้!
โดยผู้ใช้งานที่ถือกรมธรรม์กับ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต ตามที่กำหนดไว้ จะได้รับรางวัลพิเศษเพิ่มเติม
แอปพลิเคชัน MTL Fit สามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือรุ่นใดได้บ้าง
ระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือที่รองรับแอปพลิเคชันต้องเป็น Android (อย่างน้อย 4.1) และ iOS (อย่างน้อย 9.0) โดยเวอร์ชันที่ใหม่กว่านี้สามารถรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันได้ อย่างไรก็ตามอุปกรณ์อื่น ๆ (เช่น แท็บเล็ต) ยังไม่สามารถรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันได้ในขณะนี้
ฉันสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและสร้างบัญชีผู้ใช้งานได้อย่างไร

ขั้นตอนที่ 1 : ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MTL Fit
สำหรับโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้จาก Google Play: “MTL Fit”
สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้จาก App Store: “MTL Fit”

ขั้นตอนที่ 2 : สร้างบัญชีผู้ใช้งาน
เปิดแอปพลิเคชันและกด “เริ่มต้นการใช้งาน” ทำตามขั้นตอนที่ระบุเพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งาน

หากจำรหัสผ่านไม่ได้ควรทำอย่างไร
คุณสามารถตั้งรหัสผ่านใหม่ได้โดยกด “ลืมรหัสผ่าน?” ที่หน้าเข้าสู่ระบบ โดยคุณต้องยืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่าน OTP ที่ส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ได้ลงทะเบียนไว้
สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้อย่างไร
หากคุณยังอยู่ในระบบ ให้ไปที่ “อื่น ๆ” เลือก-> “แก้ไขข้อมูลส่วนตัว” เลือก-> “เปลี่ยนรหัสผ่าน”
หากคุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ คุณสามารถกด “ลืมรหัสผ่าน?” ที่หน้าเข้าสู่ระบบ
ควรทำอย่างไรหากไม่สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันได้และจำเบอร์โทรศัพท์มือถือไม่ได้
ในกรณีนี้คุณจำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้งานใหม่เท่านั้น เราไม่สามารถตั้งค่าเบอร์โทรศัพท์มือถือใหม่ให้กับลูกค้าได้

วิธีเชื่อมต่ออุปกรณ์ Smart Watch
1) กดที่เครื่องหมาย + ที่หน้าหลักและเลือก “เชื่อมต่อ” จากนั้นเลือกแอปพลิเคชันที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
2) เลือก “อื่น ๆ” ในหน้าหลัก เลือก-> “เชื่อมต่อนาฬิกาหรือแอปพลิเคชันออกกำลังกาย” จากนั้นเลือกแอปพลิเคชันที่คุณต้องการเชื่อมต่อ

ข้อมูลประเภทใดบ้างที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้
ข้อมูลการวัดจำนวนก้าวเดิน และข้อมูลการออกกำลังกาย (รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจ) สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้

การออกกำลังกายจะถูกคำนวณอย่างไร
เพื่อแสดงข้อมูลสุขภาพของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราคำนวณข้อมูลโดยอ้างอิงตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยแบ่งการออกกำลังกายเป็น 2 หมวดตามอัตราการเต้นของหัวใจ ดังนี้
ระดับปานกลาง = อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ใน Zone 2
ระดับหนัก = อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ Zone 3 หรือสูงกว่านั้น

ตามมาตรฐานสากล หากคุณทำกิจกรรมในระดับหนักเป็นเวลา 1 นาที การคำนวณเวลาจะเพิ่มขึ้น 1 เท่า ของระดับปานกลาง

อัตราการเต้นของหัวใจจะถูกคำนวณอย่างไร และแตกต่างจากแอปพลิเคชันการออกกำลังกายอื่น ๆ อย่างไร
วิธีการคำนวณของเราอาจจะแตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่น ๆ เนื่องจากเราให้คำนิยามอัตราการเต้นของหัวใจตามระดับอายุของผู้ใช้งาน

รายละเอียด:
1) คำนวณอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด: 220 - อายุของคุณ
2) Zone 2 = 60 – 69% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด
3) Zone 3 = ตั้งแต่ 70% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด

หมายเหตุ: สำหรับการว่ายน้ำ ระยะทางจะถูกแปลงเป็นอัตราการเต้นของหัวใจเนื่องจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถวัดอัตราการเต้นของ
หัวใจได้อย่างแม่นยำระหว่างการว่ายน้ำ

แอปพลิเคชันนี้รองรับอุปกรณ์ Smart Watch ยี่ห้อใดบ้าง
คุณสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันนี้กับ
1) แอปพลิเคชัน Garmin Connect (สำหรับอุปกรณ์ของ Garmin ทุกรุ่น)
2) แอปพลิเคชัน Fitbit (สำหรับอุปกรณ์ของ Fitbit ทุกรุ่น)
3) แอปพลิเคชัน Apple Health (สำหรับผู้ใช้ iPhone โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถรองรับ Smart Watch ได้หลากหลายรุ่น)

ฉันสามารถใช้งานแอปพลิเคชันโดยไม่มีอุปกรณ์ Smart Watch ได้หรือไม่
คุณสามารถวัดจำนวนก้าวเดินด้วยโทรศัพท์มือถือ (เฉพาะระบบปฏิบัติการ iOS เท่านั้น) แต่คุณไม่สามารถวัดการออกกำลังกายอื่น ๆ ได้หากไม่มีอุปกรณ์ Smart Watch

ข้อมูลการออกกำลังกายจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้อย่างไร
หากคุณใช้อุปกรณ์ Garmin หรือ Fitbit ข้อมูลของคุณจะถูกเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติหลังจากคุณได้ลงทะเบียนใช้งานเพื่อเชื่อมต่อกับบัญชีแล้ว
หากคุณใช้อุปกรณ์ Apple Health คุณต้องไปที่หน้าการเชื่อมต่ออุปกรณ์และเลือก “อัปเดตข้อมูล” โดยอาจไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลแบบทันที (real-time) เนื่องจากข้อจำกัดบางประการของผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน หากข้อมูลของคุณไม่ปรากฎภายใน 24 ชั่วโมง โปรดติดต่อทีมสนับสนุน (โทร. 1766)

หากข้อมูลไม่ปรากฏข้อมูลบนแอปพลิเคชันควรทำอย่างไร
ยกเลิกการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Smart Watch ของคุณกับ MTL Fit และเลือกเชื่อมต่ออีกครั้ง หากข้อมูลยังไม่เชื่อมต่อ โปรดติดต่อทีมสนับสนุน (โทร. 1766 กด 4) เพื่อแก้ไขปัญหา

คะแนนสุขภาพคำนวณจากอะไร
คะแนนสุขภาพของคุณจะถูกคำนวณจากข้อมูลต่อไปนี้
- การออกกำลังกายเฉลี่ยในแต่ละสัปดาห์
- จำนวนก้าวเดินเฉลี่ยในแต่ละสัปดาห์
- ดัชนีมวลกาย (BMI)
- สัดส่วนคอเลสเตอรอล
- ระดับน้ำตาลในเลือด
- ความดันโลหิต
ข้อมูลสุขภาพในเกณฑ์เหมาะสม อ้างอิงจาก องค์กรนานาชาติ เช่น องค์กรอนามัยโลก (WHO) และสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา

คะแนนสุขภาพสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์โรคได้หรือไม่
คะแนนสุขภาพใน MTL Fit ไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์โรค และไม่สามารถใช้แทนการวิเคราะห์จากแพทย์ได้

คะแนนสะสม Smile Point คืออะไร
คุณสามารถได้รับคะแนนสะสม Smile Point ได้ เมื่อคุณมีกรมธรรม์ประกันชีวิตกับบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และสมัครเป็นสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับคะแนนสะสม Smile Point จากเบี้ยประกันชีวิตที่คุณชำระเข้ามา หรือจากโครงการต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด หลังจากนั้นคุณสามารถแลกคะแนนสะสม Smile Point เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากเมืองไทยสไมล์คลับ โดยสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มีจำนวนจำกัดตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัทฯ และคะแนนสะสม Smile Point ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือยกเลิกเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ฉันจะได้รับคะแนนสะสม Smile Point สำหรับ MTL Fit ได้อย่างไร
คุณสามารถเริ่มสะสมคะแนนสะสม Smile Point ได้ เมื่อคุณเป็นผู้ใช้ระดับ Premium โดยคุณจะได้รับคะแนนสะสม เมื่อทำภารกิจประจำสัปดาห์สำเร็จ

ภารกิจประจำสัปดาห์คืออะไร
มาจากการทำกิจกรรม การนับจำนวนก้าว และ นาทีการออกกำลังกาย(อิงจากข้อ 3.3 ) ต่อไปนี้
1) จำนวนก้าวเดินต่อสัปดาห์ ที่สามารถพิชิตได้ตาม milestone ในแต่ละสัปดาห์
2 ) จำนวนก้าวเดินต่อสัปดาห์ ที่สามารถพิชิตได้ตามเป้าหมายในสัปดาห์นั้น (Bonus hit goals)
3) จำนวนนาทีการออกกำลังกายต่อสัปดาห์ ที่สามารถพิชิตได้ตาม milestone ในแต่ละสัปดาห์
4 ) จำนวนนาทีการออกกำลังกาย และ/หรือ เดินต่อสัปดาห์ ที่สามารถพิชิตได้ตามเป้าหมายในสัปดาห์นั้น (Bonus hit goals)

หมายเหตุ: เป้าหมายแต่ละสัปดาห์ สามารถถูกปรับเพิ่มขึ้น / ลดลงโดยอิงจาก ภารกิจที่ทำได้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานะต่าง ๆ บนแอปพลิเคชันหมายความว่าอย่างไร
สถานะของผู้ใช้งานทั่วไปในแอปพลิเคชันคือ “Regular” โดยคุณสามารถเพิ่มกรมธรรม์ที่เข้าเงื่อนไขได้ในแอปพลิเคชันเพื่อเลื่อนสถานะเป็นระดับ “Premium”

ฉันจะเป็นผู้ใช้งานระดับ Premium ได้อย่างไร
*คุณต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปีบริบูรณ์
1) ซื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้าเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ MTL Fit
2) เพิ่มกรมธรรม์ที่เข้าเงื่อนไข
3) เป็นสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ

คุณจะได้รับการเลื่อนสถานะเป็นระดับ Premium ภายใน 1 สัปดาห์ โดยคุณจะสามารถเก็บสะสม Smile Point ได้หลังจากนั้น

วิธีการคำนวณคะแนนสะสม Smile Point เป็นอย่างไร
คะแนนสะสม Smile Points ที่ได้จาก MTL Fit แต่ละสัปดาห์ = เบี้ยประกันภัยรายสัปดาห์ของผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ X ผลของภารกิจประจำสัปดาห์
คะแนนสะสม Smile Point จะถูกคำนวณจากเบี้ยประกันภัยรายสัปดาห์ (เบี้ยประกันภัยรายปีของผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ หารด้วย 52) และผลของภารกิจประจำสัปดาห์ โดยเบี้ยประกันภัยรายปีตามจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท

ฉันจะได้รับคะแนนสะสม Smile Point เยอะขึ้น ได้อย่างไร
คุณจะได้รับคะแนนสะสม Smile Point ได้จาก 2 วิธี
1. เพิ่มจำนวนเบี้ยประกันภัยโดยการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ และมีสิทธิ์ได้รับคะแนนสะสม Smile Point (โดยเบี้ยที่นำมาคำนวณ มาจากเบี้ยประกันภัยรายปีตามจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท)
2. พิชิต ภารกิจประจำสัปดาห์ให้สำเร็จอย่างสม่ำเสมอ

ฉันสามารถเก็บ คะแนนสะสม Smile Points จากการทำภารกิจประจำสัปดาห์ ได้อย่างไร และ สามารถเก็บคะแนนสะสม Smile Points ย้อนหลังจากการทำภารกิจสัปดาห์ก่อน ๆ ได้หรือไม่
คุณสามารถกดเก็บคะแนนสะสม Smile Points ได้โดยด้วยการกด “Collect All Smile Points” ซึ่งจะเก็บคะแนนสะสม Smile Points จากการทำภารกิจประจำสัปดาห์นั้น และสัปดาห์ก่อนๆ แต่ต้องอยู่ภายในปีปฏิทินที่คุณกดเก็บคะแนนสะสมSmile Points
หลักจากเก็บคะแนนสะสม Smile Point (จากข้อ6.8) ฉันจะนำไปแลกรับกิจกรรมแลกสิทธิประโยชน์ได้อย่างไร และมีระยะเวลาแลกถึงเมื่อไหร่
คุณสามารถนำคะแนนสะสม Smile Point แลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click
โดย เงื่อนไขการหมดอายุของคะแนนสะสม Smile Points ในการแลกสิทธิประโยชน์เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการเมืองไทยสไมล์คลับ

ยิ่งคุณมีกรมธรรม์ที่เข้าเงื่อนไขมากเท่าไร คุณก็จะได้รับ Smile Point มากขึ้นเท่านั้น
โดยทั่วไปแล้วแผนประกันสุขภาพและแผนประกันโรคร้ายแรงถือเป็นกรมธรรม์ที่เข้าเงื่อนไข
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม: สัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ ดีเฮล์ (D Health) / สัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ อีลีท เฮลท์ (Elite Health) / สัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ แยกค่าใช้จ่าย (H&S) / โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า (Mao Chai Extra) / สัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ สมาร์ท เฮลท์ (Smart Health) / สัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ พลัส (Extra Care Plus)

ผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ
• สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคมะเร็ง
• สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคเบาหวาน
• สัญญาเพิ่มเติม แฮปปี้ เลดี้
• สัญญาเพิ่มเติม แฮปปี้ เลดี้ พลัส
• สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง แฮปปี้ ลีฟวิ่ง
• สัญญาเพิ่มเติม ซีไอ เพอร์เฟค แคร์
• สัญญาเพิ่มเติม เพียว แคนเซอร์
• สัญญาเพิ่มเติม สมาร์ท ลีฟวิ่ง
• สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง ดี แคร์
• สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง มัลติเพิล ซีไอ
• สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพวงเงินแน่นอน
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ แยกค่าใช้จ่าย (H&S)
• สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพข้าราชการสุขสันต์
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ อีลิท เฮลท์
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (โครงการ เอ็กซ์ตร้า แคร์)
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (โครงการ เอ็กซ์ตร้า แคร์ พลัส)
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (โครงการ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า)
• สัญญาเพิ่มเติม แบบพรีเมี่ยม เฮลท์ แคร์ (ยกเลิกการขาย)
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบวีไอพี
• สัญญาเพิ่มเติมการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD)
• สัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรม
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ไดมอนด์ แคร์
• สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพเอชไอพี (HIP)
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ เหมาจ่าย
• สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ สมาร์ทเฮลท์